ปานวดี ดรปัญญา 52011010561 กลุ่มเรียนที่ 13 วิชาอิเตอร์เน็ตและการสื่อสารในชีวิตประจำวัน 0012006

วันพุธที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

พระนอนหงาย จ.สุพรรณบุรี

พระนอนหงาย สุพรรณบุรี



พระนอนหงาย สุพรรณบุรี
พระนอน ปางหนึ่งของตำนานการสร้างพระพุทธรูป เป็นเครื่องรำลึกถึงและเคารพบูชาถึงองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าคราวเสด็จปรินิพพาน ทุกถิ่นมีตำนานพระนอนทุกรูปตะแคงขวาเรียกว่าสีหไสยาสน์ ใครจะเชื่อว่า ที่สุพรรณบุรีจังหวัดนี้มีพระนอนหงายให้เป็นที่อัศจรรย์กว่าที่ใด

วันเวลาที่แนะนำ
พระนอนหงายสามารถชมได้ทุกวัน

การเดินทาง
จากสุพรรณบุรีไปตามทางหลวงหมายเลข 3507 ประมาณ 12 กิโลเมตร ถึงวัดพระนอนวังมัจฉา
สุพรรณบุรี

    เป็นเมืองสมัยโบราณ จึงเป็นเมืองที่มีวัดมากมาย เหมาะแก่เป็นเมืองพุทธอย่างยิ่ง สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ พิพิธภัณฑ์สถานชาวนาไทย วัดพระรูปมีพระพุทธบาทไม้ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ วัดคู่บ้านคู่เมืองสุพรรณบุรี วัดพระนอน มีพระพุทธรูปในลักษณะนอนหงายสร้างเท่าคนโบราณ มีลักษณะเหมือนกับพระนอนที่เมืองกุสินารา ประเทศอินเดีย สถานที่ปรินิพพานของพระพุทธเจ้า สระศักดิ์สิทธิ์ หนึ่งในหกสระที่ใช้ในพระราชพิธีถือน้ำพิพัฒน์สัตยา
ที่มา : http://www.unseenthailand.net/portfolio/%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%AB%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%A2-%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%93%E0%B8%9A%E0%B8%B8%E0%B8%A3%E0%B8%B5

สระมรกต สระน้ำสวยใสใจกลางป่า

สระมรกต Unseen in Thailand 


สระมรกต สระน้ำสวยใสกลางใจป่า กำเนิดมาจากธารน้ำอุ่นในผืนป่าที่ราบต่ำภาคใต้ 
แหล่งสุดท้ายที่พบ นกแต้วแร้วท้องดำ ซึ่งเคยสูญพันธ์ไปนานเกือบ 100 ปี 
ใครจะรู้บ้างไหมว่า ใจกลางป่าผืนนี้มีทั้งสระน้ำสวยใส และนกหายากอยู่รวมกัน 

ป่าเขานอจู้จี้ 
ป่าดินที่ราบต่ำผืนสุดท้ายของเมืองไทย ตั้งอยู่ที่อำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่ 
มีสภาพเป็นป่าอุดมสมบูรณ์ แบ่งเป็นป่าดงดิบชื้น และบางส่วนที่เป็นป่าพรุที่มี 
น้ำท่วมขังทั้งปี สามารถท่องเที่ยวได้สะดวกด้วยการเดินตามเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ 
ดูพรรณไม้ที่น่าสนใจ เช่น ต้นเตียว ต้นชิง ฯลฯ นอกจากนั้น ที่นี่ยังเป็นแหล่งดูนก 
ที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย โดยมีนกกว่า 300 ชนิด มีนกที่หายากและสูญพันธุ์ 
จากโลกนี้ไปแล้วเกือบ 100 ปี ซึ่งกลับมาค้นพบที่นี่คือ นกแต้วแร้วท้องดำ 
และเป็นแหล่งที่มีสระน้ำสวยใสหลายแห่ง อันเกิดมาจากธารน้ำอุ่น ที่สำคัญคือ 
สระมรกต ที่มีน้ำใสเป็นสีเขียวอมฟ้า เปลี่ยนสีไปได้ตามวันเวลา และสภาพแสง 

วันเวลาที่แนะนำ 
สระมรกต สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปีแต่สภาพที่ดีซึ่งจะเห็นสระเป็นสีเขียวมรกตสดใส 
มักจะเป็นช่วงเวลาเช้า และเย็น โดยเฉพาะในวันฤดูร้อนที่ท้องฟ้าสดใสปราศจากเมฆฝน 

การเดินทาง 
จากจังหวัดกระบี่ใช้ทางหลวงหมายเลข 4 สู่อำเภอคลองท่อม แยกซ้ายมือทางหลวง 
หมายเลข 4038 มุ่งหน้าอำเภอลำทับ ระหว่างทางมีทางแยกขวามือเป็นทางย่อยแยก 
เข้าสู่น้ำตกร้อน และสระมรกตที่มีป้ายบอกทางชัดเจน 

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงาน ททท. ภาคใต้ เขต 4 
โทร. 0-7621-1036, 0-7621-2213, 0-7621-7138 

พระผุด จ.ภูเก็ต

พระผุด จ.ภูเก็ต





     พระทองของดีคู่บ้านคู่เมืองชาวภูเก็ต เป็นพระประธานที่กล่าวขานกันว่าไม่มีเหมือนที่ใดในโลก ใครทุกข์โศกไปกราบไหว้ก็สัมฤิทธิ์ผลดลบันดาลให้ตามปรารถนา ใครจะเชื่อว่า พระผุดนี้จะมีแค่ครึ่งองค์ ยิ่งมองจึงยิ่งเหมือน องค์พระแทรกปฐพีผุดขึ้นมาให้เห็นเป็นบุญตา

วันเวลาที่แนะนำ พระผุด สามารถเข้าชมได้ทุกวัน ตั้งอยู่ใกล้กับที่ว่าการอำเภอถลาง
การเดินทาง จากจังหวัดภูเก็ตใช้ทางหลวงหมายเลข 402 ถึงอำเภอ ถลาง แล้วเลี้ยวขวาเข้าไปยังวัดพระผุดพระทอง มีป้ายบอกชัดเจน
 
ภูเก็ต
ไม่ใช่เป็นเพียงเกาะที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย แต่เป็นที่รู้จักกว้างขวางในนาม “ไข่มุกอันดามัน” เป็นจังหวัดทางใต้ที่มีชื่อเสียงเป็นที่น่าสนใจของนักท่องเที่ยว ทั้งแหลมพรหมเทพ จุดชมวิวพระอาทิตย์ตกที่สวยที่สุดในประเทศไทย หาดทรายขาว สวย วัดเก่าแก่อย่างวัดฉลอง ประเพณีอย่างเทศกาลกินเจ แหล่งธรรมชาติอย่างอุทยานแห่งชาติสิรินาถ และหมู่เกาะราชาใหญ่ เกาะโหลน เกาะไม้ท่อน เกาะเฮ และแหล่งบันเทิงยามค่ำคืนตามหาดต่างๆ ภูเก็ตแฟนตาซี ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง
ที่มา : http://www.unseentourthailand.com/pgallery/?module=gallery&action=info&cate_id=77&id=1009&page=2

เขาตาม่องล่าย จ.ประจวบคีรีขันธ์

เขาตาม่องล่าย อำเภอเมืองฯ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์



รายละเอียดแหล่งท่องเที่ยว
        เขาตาม่องล่ายอยู่ด้านเหนือของอ่าวประจวบ ตามตำนานชาวบ้านกล่าวว่า มีสามีภรรยาคู่หนึ่งคือ ตาม่องล่ายกับยายรำพึง มีลูกสาวชื่อยมโดย ฝ่ายแม่ยกลูกสาวให้กับเจ้าลาย ชายชาวเมืองเพชร ส่วนตาม่องล่ายกลับยกนางยมโดยให้กับพระเจ้ากรุงจีน ขบวนขันหมากของ
ทั้งสองฝ่ายมาถึงพร้อมกัน ตาม่องล่ายกับยายรำพึงจึงทะเลาะกัน ตาม่องลายโกรธจัด จับลูกสาวฉีกเป็นสองส่วนขว้างลงทะเลกลายเป็นเกาะนมสาว ข้าวของขันหมากที่ทั้งสองขว้างใส่กัน ตกลงทะเลกลายเป็นเกาะต่างๆ เช่น เขาล้อมหมวก แหลมงอบ เกาะสาก ยายรำพึงเสียใจจนตายกลายเป็นเขาแม่รำพึง ส่วนตาม่องล่ายคว้าไหเหล้ามานั่งดื่มจนตายกลายเป็นเขาตาม่องล่ายจนทุกวันนี้
วนอุทยานตาม่องล่าย มีพื้นที่ 862 ไร่ กรมป่าไม้ได้ประกาศให้เป็นเขตป่าสงวนแห่งชาติ 11 กันยายน 2540 อยู่สูงจากระดับน้ำทะเล 290 - 320 เมตร เป็นเขาติดต่อกัน 2 เทือก พื้นที่ส่วนใหญ่ยื่นเข้าไปในทะเล เป็นหน้าผาสูงชัน ประกอบด้วยป่าเบญจพรรณและป่าชายกาด มีไม้ไผ่รวกจำนวนมาก นอกนี้ยังมีตะแบก ตะเคียนทอง เสลา โกงกาง แสม และผักบุ้งทะเล มีสัตว์ป่าบางชนิด เช่น เลียงผา หมูป่า กระจง อีเห็น เสือป่า และไก่ป่า อาศัยอยู่ ภายในวนอุทยานฯ ไม่มีบ้านพัก แต่สามารถนำเต็นท์ไปกางเองได้ โดยขออนุญาตใช้สถานที่กางเต็นท์ได้กับเจ้าหน้าที่วนอุทยานโดยตรง

ที่พักและร้านอาหาร



สินค้า 1 ตำบล 1 ผลิตภัณฑ์ (OTOP)
1. สบู่สมุนไพร ผลิตภัณฑ์จากภูมิปัญญาชาวบ้าน ใช้สมุนไพรจากธรรมชาติผสมน้ำมันหอมระเหย ปราศจากสารกันบูด หรือสารที่ทำให้เกิดฟอง สามารถประยุกต์ใช้กับการบำบัดผ่อนคลายแบบสปาได้ ผลิตโดยกลุ่มชาวบ้านในตำบลหนองตาแต้ม อำเภอปราณบุรี 
2. กล่องที่ระลึก ทำจากกระดาษใยสับปะรด เป็นกล่องใส่ของอเนกประสงค์ ตกแต่งลวดลายสวยงาม และยังมีแบบที่ทำเป็นรูปสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของเมืองไทย เป็นสินค้าที่แสดงเอกลักษณ์ของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ได้ดี ผลิตโดย กลุ่มสับปะรด 2001 ใน ตำบลหนองตาแต้ม อำเภอปราณบุรี

การเดินทาง
จากรุงเทพฯ ใช้เส้นทางสายธนบุรี-ปากท่อ (ทางหลวงหมายเลข 35) ผ่านสมุทรสงครามแล้วเลี้ยวซ้ายเข้าถนนเพชรเกษม (ทางหลวงหมายเลข 4) ผ่านเพชรบุรีสู่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ถึงสี่แยกปั๊มปตท.กลางเมืองประจวบ เลี้ยวซ้ายตามถนนสวนสนวิ่งเลียบอ่าวประจวบ ถนนจะไปสุดทางที่เขาตาม่องล่าย



ข้อมูลการติดต่อ
สำนักงาน ททท. ภาคกลาง เขต 2 โทรศัพท์ 0 3247 1005 และ ศูนย์บริการข้อมูลท่องเที่ยว (Call Center) 1147
สำนักบริหารจัดการในพื้นที่อนุรักษ์ที่ 4 (เพชรบุรี) ต. อ่าวน้อย อ. เมืองประจวบคีรีขันธ์ จ. ประจวบคีรีขันธ์ 
โทรศัพท์/โทรสาร 0 3243 3658
ที่มา : http://www.unseentourthailand.com/link/unseenthailand/gr01_c05.html

น้ำพุร้อนโป่งเดือด จ.เชียงใหม่

น้ำพุร้อนโป่งเดือด อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่




รายละเอียดแหล่งท่องเที่ยว
      โป่งเดือดอยู่ในเขตบ้านแม่แสะ อำเภอแม่แตง เป็นน้ำพุร้อนประเภทที่ทางธรณีวิทยาเรียกว่า 'กีเซอร์' (Geyser) หรือน้ำพุร้อนที่พุ่งขึ้นสูงจากพื้นดินเป็นช่วงๆ ตามแรงดันใต้ผิวดิน ซึ่งมีปริมาณมากกว่าบ่อน้ำร้อน (Hot pool) ซึ่งเป็นเพียงน้ำผุดขึ้นมาเท่านั้น โป่งเดือดมีบ่อขนาดใหญ่ 3 บ่อและบ่อใหญ่สุดจะมีน้ำพุพุ่งสูงขึ้นมาประมาณ 2 เมตร ทุก 30 วินาที มีความร้อนประมาณ 99 องศาเซลเซียส ใกล้บ่อใหญ่มีห้องอาบน้ำซึ่งนำน้ำร้อนจากโป่งเดือดผ่านท่อเข้ามา โดยน้ำพุร้อนมีคุณสมบัติบำรุงรักษาผิวพรรณได้ดี โป่งเดือดนี้เป็นน้ำพุร้อนประเภทกีเซอร์ซึ่งใหญ่ที่สุดของเมืองไทย

        น้ำพุร้อนจะพุ่งขึ้นมาจากใต้ดินตลอดเวลา มีกลิ่นของกำมะถันอ่อนๆ เป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติโป่งเดือด ซึ่งมีระยะทางไกลประมาณ 1,550 เมตร ความลาดชันปานกลาง ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง มีจุดศึกษาธรรมชาติ 11 จุด มีบริการอาบน้ำแร่เพื่อสุขภาพ มีบริการศูนย์บริการนักท่องเที่ยว

        อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง หมู่ที่ 5 ต. กึ๊ดช้าง อ. แม่แตง จ. เชียงใหม่ 50300 มีเนื้อที่ครอบคลุมหลายอำเภอ ป่าไม้มีสภาพสมบูรณ์ เป็นแหล่งต้นน้ำของลำห้วยมากมาย ทิวทัศน์สวยงามอย่างยิ่ง โดยเฉพาะบริเวณห้วยน้ำดัง ที่มีจุดชมวิวชมทะเลหมอกที่ขึ้นชื่อ ภูเขาที่ซับซ้อน สูงจากระดับน้ำทะเล 400 - 1,962 เมตร ภูเขาที่สูงที่สุด คือ ดอยช้าง พื้นที่ป่าดงดิบและป่าเบญจพรรณนี้ เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าจำนวนมาก มีช่วงฤดูร้อนอุณหภูมิถึง 36 องศาเซสเซียส ฤดูหนาว อุณหภูมิประมาณ 14 องศาเซลเซียส และมีปริมาณฝนมากในฤดูฝน
         การท่องเที่ยวในพื้นที่อุทยานฯ นักท่องเที่ยวสามารถเลือกชื่นชมกับบรรยากาศด้วยกิจกรรมที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเดินป่า ขี่ช้าง ขี่จักรยาน ล่องแพ ดูตก เล่นน้ำตก อาบน้ำแร่ ทั้งนี้ สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ได้โดยตรง ในอุทยานฯ มีศูนย์บริการนักท่องเที่ยว เปิดทุกวันเวลา 8.00 - 16.30 น. มีร้านอาหาร/ร้านขายเครื่องดื่มบริการนักท่องเที่ยวด้วย และมีบ้านพักไว้บริการนักท่องเที่ยว บริเวณที่ทำการ - ดอยกิ่วลม - บ้านห้วยดัง และบริเวณหน่วยพิทักษ์ที่ 1 - โป่งเดือด - บ้านห้วยดัง โดยต้องติดต่อสำรองห้องพักล่วงหน้าที่ 02 562 0760 นอกจากนี้ ยังมีบริการเต็นท์ และสถานที่กางเต็นท์ อัตราค่าบริการอยู่ระหว่าง 250 - 800 บาท แตกต่างกันตามขนาดของเต็นท์และอุปกรณ์ กรณีที่นำเต็นท์ไปเอง ต้องเสียค่าธรรมเนียมสถานที่ 30 บาท/ คน/ คืน ชุดเครื่องนอนมีบริการให้เช่าในอัตรา 150-200 บาท/ ชุด/ คืน


ที่พักและร้านอาหาร

สินค้า 1 ตำบล 1 ผลิตภัณฑ์ (OTOP)
1. ตุ๊กตาดินเผาเด็กล้านนาไทย ด้วยดินแห่งอำเภอสันทรายที่ไม่มีการเติมสีสันใดๆ ทว่าใส่ความประณีตด้วยฝีมือการปั้นและวาดลาย ตุ๊กตาดินเผาจึงดูงดงามด้วยลักษณะท่าทางของรูปปั้นเด็กน้อยก็ดูราวกับมีชีวิต

2. ผ้าซิ่นตีนจก เดิมการทอผ้าซิ่นของชาวอำเภอแม่แจ่ม ผลิตเพื่อใช้เองและเก็บอีกผืนหนึ่งไว้สำหรับใช้ในโลกหน้า ความงดงามของลายซิ่นตีนจกของแม่แจ่มได้ขจรไปไกล เป็นที่ต้องการของผู้นิยมในเสน่ห์ของผ้าพื้นเมืองยิ่งนัก

การเดินทาง
จากเชียงใหม่ใช้เส้นทางหมายเลข 1095 (แม่แตง-แม่มาลัย) ถึงกิโลเมตรที่ 44 ให้แยกซ้ายไปตามถนนลูกรังเข้าสู่หน่วยพิทักษ์อุทยานฯ ที่ 1 (ห้วยน้ำดัง) อีกประมาณ 6.5 กิโลเมตร

ข้อมูลการติดต่อ
อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง โทรศัพท์ 0 5347 1669, สำนักงาน ททท. ภาคเหนือ เขต 1 โทรศัพท์ 0 5324 8604 และ 0 5324 8607 และ ศูนย์บริการข้อมูลท่องเที่ยว ( Call Center) 1147
ที่มา : http://www.unseentourthailand.com/link/unseenthailand/gr01_n02.html

ผจญภัยในเขาวงกต สวนหินผางาม จังหวัดเลย

สวนหินผางาม กิ่งอำเภอหนองหิน จังหวัดเลย

รายละเอียดแหล่งท่องเที่ยว
              แนวผาหินปูนสูงใหญ่แลดูเป็นสง่า ทอดตัวเป็นแนวยาว โดดเด่นท่ามกลางทุ่งหญ้าเขียวขจี พื้นที่บริเวณนี้คือที่ตั้งของสวนหินผางามเมืองเลย ภายในมีเส้นทางเดินสลับซับซ้อน บางช่วงดูลึกลับตื่นเต้นคล้ายกับผจญภัยอยู่ในเขาวงกต บางช่วงต้องปีนป่ายเพิงหิน หรืออาจต้องมุดลอดโพรงถ้ำ นอกจากนี้ตลอดเส้นทางยังมีโอกาสพบเห็นต้นไม้หายาก และต้นไม้ยักษ์ อย่างปรงเขาที่มีอายุหลายร้อยปี
สวนหินแห่งนี้ ตั้งอยู่ที่บ้านผางาม หมู่ 10 ตำบลปวนพุ กิ่งอำเภอหนองหิน แยกจากทางหลวงสายเมืองเลยชุมแพ ช่วงระหว่างอำเภอวังสะพุงกับภูกระดึง เข้าไปทางทิศตะวันตกตามถนนลาดยางตลอดสาย ผ่านหมู่บ้านต่างๆ ประมาณ 15 กม. จะมีป้ายบอกทางตลอดทางจนถึงบริเวณทุ่งหญ้าพื้นที่กว้างพอสมควร มีภูเขาแท่งหินปูน ซึ่งเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ อยู่กระจายเป็นลูกๆ ใหญ่บ้างเล็กบ้าง สลับกันไป บางลูกก็สามารถเดินผ่านทะลุได้ จะมีชื่อเรียกต่างๆกันตามลักษณะรูปร่างที่ปรากฎ เช่น หินไดโนเสาร์ หน้าผาท้อแท้ ซุ้มคารวะ ถ้ำอรทัย เขาวงกต เจดีย์หิน กรอบรูปธรรมชาติ กำแพงเมืองจีน ประตูโขง หินมงกุฎ สวนหิน ซุ้มนรก รูรันตู(รูตัน) มีต้นไม้นานาพันธ์ขึ้นแซม ซึ่งพบต้นไม้หายากและต้นไม้ยักษ์อย่างปรงเขาที่มีอายุหลายร้อยปี จึงมีชื่อเรียกอีกชื่อว่าคุนมิงเมืองเลย สันนิษฐานกันว่าในอดีตเคยเป็นพื้นของท้องทะเลมาก่อน และมีอายุมากว่า 225 ล้านปี ภายในมีทางเดินสลับซับซ้อน บางช่วงดูลึกลับน่าตื่นเต้นคล้ายกับผจญภัยอยู่ในเขาวงกต บางช่วงต้องปีนป่ายเพิงหิน หรืออาจต้องมุดลอดโพรงถ้ำ
ในบริเวณ มีสถานีบริการนักท่องเที่ยว ที่จอดรถ ห้องน้ำ ร้านขายของที่ระลึก และร้านอาหารให้บริการแก่นักท่องเที่ยว ที่สถานีบริการนักท่องเที่ยวมีบริการนำทางและให้คำบรรยาย ค่าบริการเพียง 100 บาทต่อนักท่องเที่ยวหนึ่งคณะ มีจุดชมวิวเพื่อถ่ายภาพยอดเขาคุนหมิงเมืองเลยไว้เป็นที่ระลึก หลังจากนั้นเดินลงบันไดทางด้านหลังเขา ซึ่งเป็นบริเวณที่ตั้งของร้านค้า ฝั่งตรงข้ามจะปากทางเข้าถ้ำลอด ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นการเดินท่องเที่ยวศึกษาธรรมชาติอีกเส้นทางหนึ่ง ซึ่งมีสถานที่น่าสนใจหลายแห่ง ได้แก่ อุโมงค์ลานเพลิน 7 สี ป่าเฟิร์นที่บรรยากาศร่มรื่นเย็นสบาย หินยาย หินตา ซึ่งตั้งชื่อตามลักษณะที่ปรากฏอีกเช่นกัน

ที่พักและร้านอาหาร

สินค้า 1 ตำบล 1 ผลิตภัณฑ์ (OTOP)
ผลิตภัณฑ์ผีตาโขน จัดทำขึ้นเป็นรูปแบบต่างๆ ทั้งเซรามิค ตัวหุ่น และพิมพ์บนผืนผ้า เป็นสินค้าที่ระลึกขึ้นชื่อของชาวจังหวัดเลย มีจำหน่ายทั่วไปในตัวเมือง และมีมากที่อำเภอด่านซ้าย

การเดินทาง
จากอำเภอวังสะพุง ใช้ทางหลวงหมายเลข 201 ไปทางกิ่งอำเภอหนองหิน ถึงตลาดหนองหิน เลี้ยวขวาเข้าถนนสายหนองหิน-สวนผางาม ประมาณ 18 กิโลเมตร เลยบ้านผางาม แยกขวามือ เข้าไปอีกราว 500 เมตร


การติดต่อ
ติดต่อผู้นำชมที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวของ อบต.หนองหิน โทรศัพท์ 0 1462 1719 และศูนย์ประสานงานการท่องเที่ยว จังหวัดเลย
โทรศัพท์ 0 4281 2812 หรือ ศูนย์บริการข้อมูลท่องเที่ยว (Call Center) 1147 หรือที่ ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวสวนหินผางาม โทรศัพท์ 0 4280 1900

ข้อแนะนำ
นักท่องเที่ยวควรแต่งกายทะมัดทะแมง และใช้ความระมัดระวังในการเดินชม ใช้เวลาในการชมราวชั่วโมงเศษ ติดต่อผู้นำชมที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ของ อบต.หนองหิน โทรศัพท์ 0 1462 1719 เข้าชมได้ครั้งละ 10-15 คน
ที่มา : http://www.unseentourthailand.com/link/unseenthailand/gr02_ne01.html

ค่ายบางกุ้ง, สมุทรคราม (หนึ่งในหลายๆ Unseen Thailand)

ค่ายบางกุ้ง, สมุทรคราม 


      ค่ายบางกุ้ง เป็นค่ายทหารเรือไทยที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ สมเด็จพระเจ้าเอกทัศน์ ทรงโปรดเกล้าฯ ให้ยกกองทัพเรือมาตั้งค่ายที่ค่ายบางกุ้ง เรียกว่า "ค่ายบางกุง้" โดยสร้างกำแพงล้อมวัดบางกุ้งให้อยู่กลางค่าย เพื่อเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจและเป็นที่เคารพบูชาของทหาร ภายหลังเสียกรุงครั้งที่ 2 ค่ายบางกุ้งก็ร้างไปจนกระทั่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงสถาปนากรุงธนบุรี เป็นราชธานีจึงทรงโปรดเกล้าฯ ให้ชาวจีนจากระยอง ชลบุรี ราชบุรี และกาญจนบุรีรวบรวมผู้คนมาตั้งกองทหารรักษาค่าย จึงมีชื่อเรียกอีกหนึ่งว่า "ค่ายจีนบางกุ้ง" ในปี พ.ศ. 2311 พระเจ้ากรุงอังวะทรงยกทัพผ่านกาญจนบุรีมาล้อมค่ายจีนบางกุ้ง สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงโปรดเกล้าฯ ให้พระมหามนตรี (บุญมา) เป็นแม่ทัพยกไปช่วยเหลือทหารจีนขับไล่กองทัพพม่าทำให้ข้าศึกแตกพ่าย หลังจากนั้นค่ายบางกุ้งแห่งนี้ก็ถูกปล่อยให้รกร้างเกือบ 200 ปี จนมาถึง พ.ศ.2510 กระทรวงศึกษาธิการ จึงได้ตั้งเป็นค่ายลูกเสือขึ้น (ปัจจุบันได้ยกเลิกไปแล้ว) และได้สร้างศาลพระเจ้าตากสินไว้เป็นอนุสรณ์


สิ่งที่น่าสนใจ

โบสถ์ปรกโพธิ์
เป็นอุโบสถหลังเดิมที่สร้างตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี จะถูกปกคลุมด้วยรากไม้ใหญ่ทั้งโพ ไทร ไกร และกร่าง มองจากภายนอกคิดว่าเป็นกลุ่มต้นไม้ใหญ่ มากกว่ามีโบสถ์อยู่ข้างใน รากไม้เหล่านี้ช่วยให้โบสถ์คงรูปอยู่ได้ ทั้งยังให้ความขรึมขลังอีกด้วย ภายในมีพระพุทธรูปประดิษฐาน ชาวบ้านเรียกว่า หลวงพ่อโบสถ์น้อย (หลวงพ่อนิลมณี) และเรียกโบสถ์ว่า "โบสถ์ปรกโพธิ์" และมีภาพจิตรกรรมฝาผนัง สมัยปลายกรุศรีอยุธยาเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับพุทธประวัติ


วัดบางกุ้ง 
เป็นวัดเก่าแก่สมัยกรุงศรีอยุธยาเช่นกัน อยู่คนละฝั่งกับค่ายบางกุ้งโดยมีถนนผ่านกลาง สิ่งที่น่าสนใจในวัดนี้ได้แก่ คัมภีร์โบราณ ส่วนมากจะเป็นตำรายาโบราณ และบริเวณหน้าวัดด้านที่ติดกับแม่น้ำแม่กลอง จะมีปลาน้ำจืดต่างๆ อาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก จนได้ชื่อว่า "วังมัจฉา"

การเดินทาง

ทางรถยนต์

จากตัวเมืองสมุทรสงคราม ไปตามเส้นทางหลวงหมายเลข 325 (แม่กลอง-อัมพวา) ประมาณ 5 กม. เลยวัดบางกะพ้อม (ยังไม่ถึงตลาดอัมพวา) ให้สังเกตทางแยกซ้ายมือ เลี้ยวซ้ายข้ามสะพานข้ามแม่น้ำแม่กลอง(สะพานสมเด็จพระศรีสุริเยนทร์) ตรงไปถึง ถึงสามแยกเลี้ยวขวา ตรงไปผ่านวัดภุมรินทร์ จนถึงสามแยก (มีวัดบางแคใหญ่อยู่ขวามือ) เลี้ยวขวา ตรงไปผ่านวัดบางแคน้อย วัดปากน้ำ ข้ามสะพานคลองแควอ้อม สังเกตค่ายบางกุ้งอยู่ซ้ายมือ จะเห็นแนวกำแพงของค่าย

รถประจำทาง
จากตัวเมืองสมุทรสงคราม นั่งรถโดยสารสองแถว สายแม่กลอง-วัดปราโมทย์ คิวรถอยู่บริเวณธนาคารนครหลวงไทย สาขาสมุทรสงคราม รถจะวิ่งผ่านค่าย
ที่มา: http://www.thai-tour.com/thai-tour/central/samutsongkram/data/place/pic_bangkung-camp.htm